حب فى المزرعة Romance on the Farm | | الحلقة 4 | iQIYI Arabic

[รายการนี้มีคำบรรยายภาษาไทย] [ฟาร์มรักนักปลูกผัก] [ตอนที่ 4] ป้าสะใภ้รอง ป้าสะใภ้รอง ป้าสะใภ้รอง ป้าสะใภ้รอง ป้าสะใภ้รอง ชนะเดิมพันแล้ว ไหน ไหนล่ะ ไหน ป้าสะใภ้รอง ท่านปู่จะยืมเงินแล้ว ท่านไม่ไปดูหน่อยหรือ มีอะไรน่าดูล่ะ เงินที่ยืมมาก็ไม่ได้ให้ข้าสักหน่อย ป้าสะใภ้รอง ท่านฟังข้าพูดนะ เมื่อวานหลังจากที่ท่านปู่ ตกลงจะไปยืมเงินลุงจิน ข้านอนไม่หลับทั้งคืนเลย ข้ามาคิดดูนะ ถ้าเหลียนฮวาเอ๋อร์คนนี้แต่งเข้าตระกูลซ่ง ก็จะกลายเป็นคนตระกูลซ่งใช่หรือไม่ แน่นอนอยู่แล้วสิ แต่ในหนังสือกู้ยืมนี้ เป็นลายนิ้วมือของท่านปู่ คนตระกูลซ่งยืมเงิน คนตระกูลเหลียนประทับลายนิ้วมือ ป้าสะใภ้รอง ท่านสบายใจได้อย่างนั้นหรือ สบายใจสิ หรือ หรือว่าต้องไม่สบายใจอย่างนั้นหรือ เดี๋ยวนะ เจ้าหมายความว่าอะไรกันแน่ ข้าหมายความว่า ในหนังสือกู้ยืมนี้ ลายนิ้วมือที่ประทับลงไป เป็นของคนตระกูลเหลียนของเรา ถ้าต่อไป ฮวาเอ๋อร์บอกว่าคนตระกูลซ่งอย่างนาง มีสิทธิ์อะไร มาคืนเงินแทนคนตระกูลเหลียนล่ะ เช่นนั้นพวกเราก็ต้องเป็นคนคืนเงินใช่ไหมล่ะ ถ้าลุงจินมาคิดบัญชีละก็ บ้านเราก็อยู่ที่นี่ ที่ดินเราก็อยู่ที่นี่ จะหนีก็หนีไม่พ้นเลยนะนั่นน่ะ ท่านปู่ ดูสิถ้าไม่มีปัญหาอะไร ก็ลงนามยอมรับได้เลย แล้วข้ากับท่านซิ่วไฉ

ก็จะไปแลกเงิน ไม่มีปัญหาอะไรหรอก นิสัยใจคอของท่าน ท่านพ่อข้ารู้อยู่แล้วละ นั่นสิ ข้าจะไปเตือนท่านปู่เดี๋ยวนี้ ท่านจะช่วยข้าหรือไม่ ยังต้องรอเจ้าอีกหรือ ช้าก่อน ท่านพ่อ ลายนิ้วมือที่จะใช้เป็นหลักฐานการยืมนี้ ต้องให้ฮวาเอ๋อร์เป็นคนประทับ ฮวาเอ๋อร์ เป็นหญิงสาวที่ยังไม่ได้แต่งงาน ทำเรื่องแบบนี้ได้ซะที่ไหนล่ะ ควรจะให้ท่านพ่อเป็นคนประทับสิ ท่านพ่อเป็นผู้นำตระกูลนี่นา ตามหลักแล้ว ถึงจะเป็นแบบนี้ แต่ถ้าจะพูด ก็พูดแบบนี้ไม่ได้นะ พี่สะใภ้ ทุกเรื่องน่ะ มันก็มีความไม่แน่นอนทั้งนั้นแหละ แม้คำพูดของฮวาเอ๋อร์จะน่าฟัง แต่ถ้าต่อไปหาเงินมาไม่ได้ เช่นนั้นก็ต้องเอา บ้านและที่ดินของตระกูลเหลียนมาจำนองน่ะสิ ถึงตอนนั้นพวกเรา จะอยู่กันอย่างไรเล่า จะอยู่อย่างไรเล่า แม้มันจะเป็นเรื่องธรรมดาของมนุษย์ ที่ผู้ใหญ่จะเข้าข้างเด็ก แต่ตระกูลเหลียน ก็ไม่ได้มีฮวาเอ๋อร์เป็นลูกสาว แค่คนเดียวสักหน่อย ข้ายังมีเย่เอ๋อร์กับจี้จู่อีกนะ ยังมีน้องจี้จู่ของพวกเราด้วย เหลียนฮวาเอ๋อร์น่ะ ถึงอย่างไรก็เป็นแค่ลูกสาว แต่จี้จู่ของเราเป็นหลานชาย ต่อไปยังต้องอาศัยทรัพย์สินในบ้านเหล่านี้ ศึกษาเล่าเรียน แต่งภรรยาอีกนะ ลายนิ้วมือในวันนี้ ต้องให้ฮวาเอ๋อร์เป็นคนประทับสิ อาสะใภ้รอง เงินนี้ยืมมาให้ข้า ข้าจะต้องคืนอย่างแน่นอน เอาละ ๆ ๆ ท่านคืน ๆ

มา ประทับเถอะ เหลียนม่านเอ๋อร์ มีผู้ใหญ่อยู่ที่นี่ด้วย ถึงคราวที่เจ้าจะพูดแทรกขึ้นมาอย่างนั้นหรือ เจ้าสาม เจ้ายังไม่สั่งสอน ม่านเอ๋อร์ของพวกเจ้าอีก นับวันก็ยิ่งไม่เห็นหัวผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ ม่านเอ๋อร์ ให้ปู่เจ้าเป็นคนตัดสินใจเถอะ ฮวาเอ๋อร์ของเราน่ะ ไม่เบี้ยวหนี้แน่นอน อีกอย่างนะ มีซะที่ไหนกันล่ะที่ปู่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ให้หลานสาวออกหน้า รับผิดชอบยืมเงินแทนน่ะ เรื่องนี้ถ้าแพร่ออกไป จนคนนอกรู้เข้า แล้วต่อไป จะคิดอย่างไรกับครอบครัวของเราล่ะ ลุงจินไม่ใช่คนปากมากสักหน่อย คนตระกูลเหลียนไม่พูด จะมีใครรู้เล่า เจ้ายังกล้าพูดมากอีก นายท่านตระกูลเหลียนช่างน่าเกรงขามจริง ๆ ดูเหมือนว่าผู้นำตระกูลเหลียน คือลูกชายคนโตของท่านนะ ข้ายังไม่ตายสักหน่อย ท่านพ่อ ข้าไม่ได้หมายความว่าอย่างนี้ ท่านพ่อ ไม่อย่างนั้น เราปรึกษาหารือกันอีกสักครั้งเถอะ ท่านซิ่วไฉ แต่ก่อนหน้านี้เราตกลงกันแล้ว ท่านบอกให้ข้าเขียนหลักฐานการกู้ยืมให้เสร็จ แล้วเอามา แต่ตอนนี้ ท่านดูสิ ท่านดูตระกูลเหลียนของพวกท่านสิ ยังจะบอกว่าไปหารือกันอีก ข้าเหล่าจิน ไม่ได้คุยโวเลยนะ คนที่มายืมเงินกับร้านเงินของเราน่ะ เข้าแถวเรียงกันตั้งแต่ทางเข้าหมู่บ้าน ไปจนถึงท้ายตำบล ห้าร้อยตำลึงเงิน ดอกเบี้ยในแต่ละวันก็ไม่น้อยเลยนะ ถ้าพวกท่านไม่จริงใจ ก็อย่ามาขวางทางหาเงินข้า ท่านพ่อ ท่านปู่

ข้าประทับเอง ในที่สุดก็แก้ปัญหา เรื่องบังคับให้แต่งงานได้แล้ว น่าจะไม่มีใครมาวุ่นวายกับข้าอีกแล้วละ ใช่ไหม ต้องรีบคิดเรื่องหาเงิน แม้ว่าที่นี่จะดี แต่ก็อยู่นานไม่ได้ ต้าหวง เจ้าคิดว่า ข้าจะสามารถหาเงินพันตำลึงทองได้ไหม ได้ ได้ ได้ เจ้าพูดอย่างนี้ข้าก็วางใจแล้วละ ไปเถอะ ข้ารู้ว่า ขายหั่วจี๋นี้น่ะ หาเงินได้ช้าเกินไป แต่นี่ก็เป็นแค่แผนรับมือชั่วคราว ข้าไปสืบมาแล้ว สีผึ้งทาปาก ชาด เครื่องในหมูอะไรพวกนั้น คนอื่นเขาขายกันหมดแล้ว ให้เจ้าไปทำงานเป็นกรรมกร ก็เสียแรงโดยใช่เหตุ ดังนั้น เจ้าไปรับเขียนจดหมายเถอะ งานรับเขียนจดหมายเหมาะกับเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นขาดตลาดด้วย เจ้า… ไม่ต้องให้เจ้าลำบากใจหรอก เจ้าอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธสิ ข้าคิดดูแล้ว กิจการนี้ไม่ต้องใช้เงินทุน แล้วก็ไม่ต้องมีฝีมืออะไร เจ้าน่ะ ก็แค่ไปนั่งอยู่ตรงนั้น ใช้ใบหน้าอันหล่อเหลานี้ พวกสาว ๆ ก็รีบ มาจ่ายเงินให้เจ้าแล้วไม่ใช่หรือ ข้าไม่ได้หมายความว่า เจ้าเกาะผู้หญิงกินนะ ข้าหมายความว่า สวรรค์เอาข้าว มาป้อนให้ถึงปากเจ้าแล้ว ถ้าเจ้าไม่กินก็จะเสียมารยาทอย่างไรเล่า ยิ่งไปกว่านั้น เจ้ายังเป็นหนี้ข้าอยู่อีกร้อยตำลึง ติดหนี้ก็ต้องคืน เป็นสัจธรรมที่เปลี่ยนแปลงมิได้ นอกจากรับเขียนจดหมาย

อย่างอื่นก็พอจะพิจารณาได้ ได้ เช่นนั้นเจ้าว่ามาสิ เจ้าทำอะไรได้บ้าง สมองก็ไม่อยากใช้ หน้าตาก็ไม่อยากขาย ให้เก็บหั่วจี๋ก็มัวแต่ลีลา เสี่ยวชียังเก่งกว่าเจ้าซะอีก พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว เก็บไม่เต็มตะกร้านี้ ไม่ต้องกลับไป เสี่ยวชี สุดยอดไปเลย พี่เสิ่นนั่วสุดยอดไปเลย แค่เดี๋ยวเดียวก็เต็มแล้ว ไปกันเถอะ เรากลับบ้านกัน ♫ไม่เลว♫ ♫รูปร่างหน้าตาแบบนี้♫ ♫แต่ละวันนึกถึงเสมอ มักพบเจอในความฝัน♫ ♫หรือถูกกำหนดไว้เมื่อห้าร้อยปีก่อน♫ ♫ร่างกายนี้ควรจะเป็นของเขา♫ ♫มีคนเรียกให้เปิดประตู♫ ♫ฟังจากเสียง♫ ♫เป็นสตรีนางหนึ่ง♫ ♫ที่แท้ก็ไม่ใช่โจร♫ ♫รอให้ข้ามาเปิดประตู♫ ดี ๆ เยี่ยม ๆ ๆ ♫ไม่เลว♫ ♫รูปร่างหน้าตาแบบนี้♫ ♫แต่ละวันนึกถึงเสมอ มักพบเจอในความฝัน♫ สือซาน สือซาน เข้าไปหยิบของแล้วรีบออกมา สือซาน คุณชาย เจ้า.. คุณชาย ทำไมเจ้าถึงแต่งตัวแบบนี้ ข้ากำลังเตรียมตัวจะขึ้นไปแสดงบนเวทีน่ะขอรับ แสดงหรือ เจ้าถูกจับตัวไป และตกอยู่ในอันตรายไม่ใช่หรือ ข้าถูกจับตัวไป และข้าก็ถูกล่ามเอาไว้นี่แหละ คืนนี้คนในคณะละคร จับข้าขึ้นมาสมทบบนเวที พวกคณะละครที่อยู่ข้างล่างนั่น มีความเป็นมาอย่างไรเจ้ารู้หรือไม่

ภายนอกพวกเขาดูเหมือน ศิลปินที่เดินไปตาม ตรอกซอกซอยต่าง ๆ แต่ฝีมือการต่อสู้ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ วันนั้นหลังจากที่ข้านัดรวมตัวกับท่าน ข้ามาถึงที่นี่ก่อนแค่ก้าวเดียว บังเอิญเจอพวกเขายึด โรงเตี๊ยมรถม้านี้ และทำเป็นร้านค้าชั่วคราว ตอนที่รอท่านมาน่ะ ข้าก็ถูกหัวหน้าคณะละครคนนี้ จับมัดไว้อย่างไร้เหตุผล แล้วทำไมท่านถึงใช้เวลานานขนาดนี้กว่าจะมาถึง ข้าถูกยิงด้วยลูกธนูพิษ ทั้งยังให้คนของทางการเห็นหน้าแล้วด้วย ตอนนั้นพวกเขาเพิ่มกำลังคน ออกตามหาข้าไปทั่วทุกแห่ง ข้าจึงทำได้แค่พักอาศัยอยู่ในบ้าน ของครอบครัวเกษตรกรหลังหนึ่งชั่วคราว แล้วท่านอยู่ที่นั่นปลอดภัยหรือเปล่า พอแล้ว ๆ วางใจเถอะ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ข้าได้ตกลงกับครอบครัวนั้นแล้วละ ตอนนี้ เป็นหลานชายที่อยู่แดนไกลของครอบครัวพวกเขา ปกติคอยช่วยพวกเขาทำงานเบ็ดเตล็ด ต่อให้มีคนมาตรวจสอบ ครอบครัวนั้น ก็จะช่วยข้าปิดบัง คราวก่อนตอนที่ข้ามาดูเจ้า เห็นคนที่คุมตัวเจ้า ล้วนเป็นผู้ที่ฝึกวิชาการต่อสู้ทั้งนั้น ตอนนั้นบาดแผลบนตัวข้า ยังไม่หายดี จึงทำได้แค่ออกไปก่อน แต่ด้วยฝีมือของเจ้านี้ ทำไมถึงไม่หาโอกาสหนีไปล่ะ เพราะข้าพบว่า… เป็นละครความรักอันลึกซึ้งของพี่น้อง ที่แยกจากกันไม่ได้ที่ดีเรื่องหนึ่งเลยนะ พ่อหนุ่มคนนี้หล่อเหลาเอาการ ไม่สู้ มาอยู่ที่คณะเซิ่งเต๋อของเราไม่ดีกว่าหรือ ท่านจอหงวน โปรดรับแส้นี้ไว้ด้วยเถอะ ก็ต้องดูแล้วละว่าเจ้าจะเก็บไว้ได้หรือไม่ ลุย ข้าไม่รับราชบุตรเขย เยี่ยม ๆ ๆ

ร้องเรียกให้เขื่อนเสริมนำเงินออกมาทีเดียว (ผู้ชมอย่าหยุดให้เงิน) ดี ๆ ๆ เขานี่แหละ ข้าเห็นกับตาว่าคนเลวคนนี้ ฆ่าคุณชายซุน [สหายของซุนหลี ฟ่านหลิน] ดี เยี่ยม อย่าหนีนะ ยังไม่จ่ายเงินเลย จ่ายเงินมา จ่ายเงินมา ต้องการตัวคนก็พูดมาตามตรง ทำไมต้องใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับด้วยเล่า ผู้นำยุทธภพจัดการยากเหลือเกิน (หัวหน้ารับมือยากมากจริง ๆ) แทงมาเลย พ่อไก่อ่อน (แทงด้วยหอกฟันด้วยดาบ) น้องเล็กคิดหนีเป็นอาการหลงผิด (น้องเล็กคิดเพ้อเจ้อว่าจะหนีไป) คารมคมคาย (เต็มไปด้วยภาษาลับ) หรือจะเป็นผู้ไร้เทียมทาน (หรือจะเป็นคนมีชื่อเสียงในยุทธภพ) เป็นสหายที่ร่วมมือกันก็เท่านั้นเอง (เป็นเพื่อนร่วมเดินทางก็เท่านั้นเอง) ในเมื่อประจันหน้ากันแล้ว (ในเมื่อพบเจอกันแล้ว) มิสู้บอกชื่อเสียงเรียงนามมาสักหน่อยเล่า (มิสู้บอกชื่อแซ่ให้ทราบกันสักหน่อย) หลิ่วเหมินฝนทั่งให้เป็นเข็ม (คณะละครวิ่งรอกมาจนถึงที่นี่) หาน้ำมาทำกินนิดหน่อย (ทำการค้าได้ไม่ค่อยดี) ข้ามีหัวเสือเป็นหมื่นตัว (อักษรตัว “หวัง”) เพิ่มมาหน่อย แซ่อวี้ [อวี้เซียงจิน] ดูลักษณะท่าทางของเจ้า คาดว่าก็น่าจะเป็นกลุ่มโจรเหมือนกัน สหายของข้าคนนี้ ในเมื่อถูกหัวหน้าคณะอวี้จับตัวไว้ แสดงว่าต้องล่วงเกินหัวหน้าคณะเป็นแน่ ข้าน้อยขอชดใช้ให้แล้วกัน ขอถามหัวหน้าคณะว่า จับตัวเขาไว้ด้วยเหตุอันใดหรือ สหายของเจ้าไม่รู้กฎเกณฑ์

มานั่งบนหีบเครื่องแต่งกายของข้า เป็นบุรุษ นั่งทับทรัพย์สมบัติหากินของคนอื่น ก็ซวยน่ะสิ เป็นเช่นนี้จริง ๆ ด้วย หัวหน้าคณะอวี้ลองบอกจำนวนมาก็ได้ ให้โอกาสข้าได้พูดคุยอย่างสนิทสนมสักหน่อย ท่านและข้าต่างก็รู้ จะปล่อยตัวสหายข้าคนนี้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับคำพูดท่านแค่คำเดียว ได้ ความเสียหายของการแสดงในคืนนี้ บวกกับเรื่องที่สหายของเจ้าล่วงเกินข้า สองร้อยตำลึง ท่านเรียกราคาสูงมาก นี่เป็นการทำลายกฎของยุทธภพมิใช่หรือ หุบปาก กฎเกณฑ์หรือ ข้านี่แหละกฎเกณฑ์ สองร้อยตำลึง ทำให้ข้าน้อยลำบากใจจริง ๆ นั่นแหละ ดูท่าคงทำได้แค่ ปล่อยสหายของข้าให้อยู่ที่นี่นี่แหละ ขอลาก่อน หนึ่งร้อยตำลึง ห้าสิบตำลึง สองร้อยตำลึงก็สองร้อยตำลึง ภายในหนึ่งเดือน ข้าจะมาไถ่ตัวเขาให้ได้ เจ้ากล้าล้อข้าเล่นอย่างนั้นหรือ หัวหน้าคณะอวี้ชอบ กลอุบายหยอกล้อคนอื่นพวกนี้มิใช่หรือ เช่นนั้นสหายข้าคนนี้ ก็มอบให้หัวหน้าคณะอวี้ ดูแลดี ๆ แล้วกัน ก่อนจะไป ข้ามีหลายคำ อยากจะกำชับเขาสักหน่อย มิทราบว่า… ขอบคุณ เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม ไม่ร้ายแรงขอรับ ข้าขอถามเจ้าหน่อย คนรวยคนนั้น ที่พวกเราคอยจับตาดูก่อนหน้านี้ ทำไมจู่ ๆ ถึงปรากฏตัว ที่โรงเตี๊ยมรถม้าล่ะ

เมื่อครู่ไม่ทันได้พูดอย่างละเอียด ข้าเจอคนคนนั้น มาดื่มสุราและรับชมละครอยู่ที่นี่ ดังนั้นข้าจึงถือโอกาส สืบข่าวจากที่นี่ ได้ยินคณะละครพูดโดยไม่ได้ตั้งใจว่า คนนั้นเป็นเถ้าแก่ของหอสุราเยว่ไหล หอสุราเยว่ไหลหรือ ดี ข้าจะไปที่หอสุราแห่งนี้สักหน่อย เจ้าก็อยู่ที่นี่เพื่อสืบข่าวต่อไป ขอรับ คราวหน้ามาใหม่นะขอรับ กลับดี ๆ ล่ะ เถ้าแก่กลับมาแล้วหรือ ลูกค้าทั้งสองท่าน ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ขอรับ หอสุราของเรา หาที่นั่งยากมาก การจองล่วงหน้าวันนี้เต็มแล้ว คราวหน้าค่อยมาใหม่นะขอรับ รับเขียนจดหมาย สัญญาคำร้อง สิบตัวอักษรหนึ่งเหวิน มา ขอทางหน่อย มา มา ขอทางหน่อย หั่วจี๋ทั้งตะกร้านี้ เปลี่ยนเป็นเงินได้แค่ไม่กี่เหรียญเอง อยากจะหาให้ครบพันตำลึงทอง เช่นนั้นคงอีกแปดชาติเลยละ เรียบร้อย ขอบคุณขอรับ [รับเขียนจดหมาย สิบตัวอักษรหนึ่งตำลึง] สิบตัวอักษรหนึ่งตำลึง มีคนมาจ้างก็แปลกแล้วละ นายท่าน ข้าอยากให้ท่าน ช่วยเขียนจดหมายให้ข้าหน่อย แม่นาง เขียนเสร็จแล้ว นายท่าน ท่านอย่าเขียนอย่างเดียวสิ ช่วยอ่านออกเสียงให้ฟังหน่อย ดูสิว่ามีตรงไหนผิดหรือเปล่า นั่นสิ อ่านสักหน่อยเถอะ

อ่านหน่อยเถอะนะ ๆ อ่านออกเสียงก็จะเป็นอีกราคาหนึ่งนะ คราวนี้ก็อ่านได้แล้วสินะ อ่านไหม อ่านไหม ยังไม่… คราวนี้พอแล้วใช่ไหม อ่านได้แล้วใช่ไหม รีบอ่านเถอะ อ่านหน่อยนะ นั่นสิ นายท่าน อ่านสักหน่อยเถอะ รีบอ่านเถอะนะ อ่านหน่อยเถอะ อ่านหน่อยเถอะนะ นั่นสิ ก็อ่านสักหน่อยสิ ท่านอ่านหน่อยเถอะ เมฆาร่างสร้างแล้วพรรณราย ดาราร่วงพร่างพรายกำสรดแสน คงคาสวรรค์พาดผ่านข้ามอันธการ ยากจะเหลียวกลับหวนมองสะพานสกุณา แม้ต้องพลัดพรากจากกันเนิ่นนาน ความรักกลับยังรั้งอยู่ทุกเพลา เสิ่นนั่ว เขาอ่านเก่งจริง ๆ มีความสามารถมากเลย เขาอ่านเก่งจริง ๆ นั่นสิ ถึงตาข้าแล้ว ถึงตาข้าแล้ว ถึงตาพวกเราแล้ว อย่าเบียดสิ นายท่าน นายท่าน นี่ใครหรือ คนแบกตะกร้าคนนี้เป็นใคร ขอพูดประโยคเดียว ๆ เจ้าไม่ใช้หน้าตาหาเงินไม่ใช่หรือ ข้าไม่อยากทำกับเจ้า ไม่ได้บอกว่าตัวเองจะไม่ทำ แต่เจ้าใช้ความคิดของข้านะ เงินที่เจ้าหามา ควรเป็นของข้าครึ่งหนึ่ง ใครกันล่ะเนี่ย แม่นางท่านนี้ ท่านอยากเขียนอะไรหรือ ข้า ข้า ข้ารู้แล้วละ

ท่านอยากเขียนว่า ข้าอยากรักใคร่กับเจ้าจนแยกจากกันไม่ได้ โบยบินไปคู่กัน บินข้ามโลกอันวุ่นวายติดตามกันไปตลอดกาล ท่อนนี้ดี ท่อนนี้ดีกว่าอีก ท่อนนี้เขียนได้ดีกว่าข้าเยอะเลย เขียนสิ ใช่ เดี๋ยวเจ้าก็เขียนอันนี้ด้วยสิ เช่นนั้นเจ้าก็จัดเรียงแถวให้พวกนางหน่อย อย่าขวางหน้าข้า พี่น้องทั้งหลาย ฟังข้าพูดนะ เรามาเข้าแถวแล้วมาทีละคน ข้ารับรองได้ว่ามีที่สำหรับทุกคนแน่ จริง ๆ นะ จริง ๆ มา ๆ ทุกคนเข้าแถว ข้าก่อน ข้าก่อนเลย [หอสุราเยว่ไหล] มาทีละคนนะ ถอยหลังหน่อย ถอยไปข้างหลังหน่อย ๆ ถอยหลังไปหน่อยจ้ะ พี่น้องทั้งหลาย ระวังนะ ระวังชนกัน เดี๋ยวก่อน ยังแบ่งไม่เสร็จเลย อันนี้ คือค่าที่พักอาศัยในยามปกติของเจ้า อันนี้ คือค่ากินดื่มในยามปกติของเจ้า ย่าเจ้าไม่ได้ต้องการเงินค่าอาหารของข้า ได้ รู้จักเลียแข้งเลียขาไม่ธรรมดาจริง ๆ นี่คือค่า ปิ่นปักผมสินเดิมของแม่ข้า แล้วก็เงินค่ายาและค่ารักษา ของพี่เหิงที่ตรวจอาการให้เจ้า อ้อ ใช่แล้วละ เจ้ารังเกียจการหาเงินไม่ใช่หรือ ทำไมจู่ ๆ ถึงไปวางแผงในตลาดล่ะ

สองวันก่อนข้าไปเจอคนบ้านเดียวกันมา เขาถูกคนจับตัวไว้ ต้องใช้เงินสองร้อยตำลึงในการไถ่ตัว ข้าต้องรวบรวมเงินให้เขา ถึงได้ไปรับเขียนจดหมายในตำบล จริงหรือเปล่า เช่นนั้นเจ้าคิดว่าเพราะอะไรล่ะ เช่นนั้นเจ้าก็เป็นคน ยึดมั่นใจสัจจะดีนะเนี่ย เรียบร้อย เงินก็แบ่งกันอย่างชัดเจนแล้ว เห็นแก่ที่เจ้าทำเพื่อคนบ้านเดียวกัน ม่านเอ๋อร์ เอาปิ่นปักผมนี้มาจากไหน เงินที่ได้จากการขายหั่วจี๋ ข้าซื้อให้ท่านแม่ ม่านเอ๋อร์เก่งจริง ๆ แต่บนภูเขามีแมลงและงูมากมาย คราวหน้าเจ้าอย่าไปเลยนะ ท่านแม่เอาปิ่นปักผมที่เป็นสินเดิมของตัวเอง ให้ท่านย่าไปแล้ว แต่ว่าไม่เป็นไร ต่อไปข้าจะหาเงิน มาซื้อแบบฝังทอง ฝังเงิน แล้วก็ฝังอัญมณีมาให้ท่านแม่ ถึงแม้ว่าอันนี้ จะดูเรียบไปหน่อย แต่ถ้าท่านแม่ปักลงไปต้องสวยมากแน่ ๆ อย่าเพิ่งปักดีกว่า กลัวว่าย่ามาเห็นเข้าแล้วจะสร้างปัญหาอีก แม่จะเก็บไว้ ไว้ต่อไปค่อยปักนะ แม่ชอบมาก ข้าเพิ่งล้างพุทรา นี่ ชิมดูสักลูก หวานไหม อร่อย ท่านแม่ก็กินด้วยสิ ได้ เจ้ากินเถอะ ๆ เป็นอะไรไปหรือ ทำหน้าตาบึ้งตึง ข้าเพิ่งไปเห็นเหลียนม่านเอ๋อร์เข้าน่ะสิ ในมือถือถุงเงินเอาไว้ด้วย มิหนำซ้ำถุงเงินนั่นยังตุงออกมาอีก ท่านแม่ ท่านว่านางไปเอาเงินพวกนี้มาจากไหน ข้ายังเห็นนางมอบปิ่นปักผมอันใหม่ ให้อาสะใภ้สามด้วยนะ ดูจากลักษณะของปิ่นปักผมอันนั้น

อย่างน้อยก็หนึ่งตำลึงเงินเลยละ มีเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ๆ หรือ ท่านแม่ ยอดรวมของย่าแต่ละปี ก็ยังเก็บเงินได้แค่ไม่เท่าไร ถ้าปล่อยให้บ้านสองบ้านสาม แย่งไป เช่นนั้นเราก็เสียเปรียบน่ะสิ เดี๋ยวแม่จะไป สืบดูจากน้ำเสียงของอาสะใภ้สามเจ้า ดูสิว่าเหลียนม่านเอ๋อร์ ทำเรื่องบ้าบออะไรกันแน่ ใช่แล้วละ ท่านแม่ ท่านกินยาแล้วหรือยัง ท่านแม่ต้องคลอดน้องชาย ออกมาให้ข้าได้แน่ ๆ ทำให้อาสะใภ้รองหุบปากเน่า ๆ ของนางซะ อรุณสวัสดิ์ พี่นั่ว นกที่ตื่นเช้าจะมีหนอนให้กิน ออกไปวางแผงกันเถอะ ข้าและเจ้ารักกันแน่นแฟ้น โบยบินไปคู่กัน บินข้ามโลกอันวุ่นวาย ติดตามกันไปตลอดกาล ห่วงโซ่อุตสาหกรรมเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้เลยหรือ ใครกันนะบอกว่านกที่ตื่นเช้า จะมีหนอนให้กิน ข้าว่านะ นกที่ตื่นเช้า ถูกหนอนกินไปแล้วกระมัง สาว ๆ พวกนี้เปลี่ยนใจกัน เร็วเกินไปจริง ๆ มันก็เข้าใจอยู่หรอก แต่ไม่ว่าอย่างไรก็เลือกหน่อยสิ คนพวกนี้หน้าตาเป็นอย่างไร กิจการดีเกินไปก็เป็นปัญหาเหมือนกัน นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร ให้พวกเขาสองคน ให้ข้าแค่คนเดียว [หอสุราเยว่ไหล] ขอทานน้อย อยากไปกินข้าวที่หอสุราเยว่ไหลไหม เจ้ามีเงินหรือ ตามมาเถอะน่า ไป

ท่านทั้งสอง เชิญทางนี้ขอรับ เชิญนั่ง ท่านทั้งสองอยากกินอะไรหรือขอรับ ท่านดูก่อนเถอะ มีอะไรดี ๆ ก็สั่งได้เต็มที่เลย ไม่ต้องเกรงใจ ข้าไปครู่เดียวเดี๋ยวกลับมา เกิดมีมโนธรรมขึ้นในใจหรือนี่ เช่นนั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะ แม่นาง ข้าน้อยจะบอกชื่อรายการอาหารให้ท่านทราบ อาหารจานเด็ดของทางร้านมี ลูกแกะนึ่ง อุ้งตีนหมีนึ่ง หางกวางนึ่ง เป็ดย่าง ไก่ย่าง ห่านย่าง หมูพะโล้ เป็ดพะโล้ ไก่หมักเครื่องปรุงรส หมูน้ำค้าง กระเพาะหมูหมัก ไส้กรอกเนื้อตากแห้ง หมูต้มสุกหั่นจานรวม ไก่อบรมควัน หมูสามชั้นตุ๋น เป็ดยัดไส้ข้าวเหนียว คุณชายซ่ง พรุ่งนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ ข้าน้อยตั้งใจเตรียม ของขวัญเล็ก ๆ น้อย ๆ มาให้ท่าน เช่นนั้นสินค้าชุดนี้ คุณชายซ่งให้ส่วนแบ่งข้าน้อย [ลูกชายคนโตตระกูลซ่ง ซ่งไห่คุน] มากหน่อยได้หรือไม่ขอรับ ท่านระบายสินค้าแต่ละรอบก็ไม่ง่ายเลย เจ้าหมายความว่า ก่อนหน้านี้ข้าปฏิบัติกับเจ้า อย่างไม่ยุติธรรมอย่างนั้นหรือ คุณ คุณชายซ่ง ท่านเอาคำพูดนี้มาจากที่ไหนกันเล่า ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยจะให้คน ไปเปลี่ยนชาใหม่ให้ท่านสักกา ข้าน้อยมาสืบหาล่วงหน้า

รอบหนึ่งแล้วขอรับ เป็นลูกค้าที่มารับประทานอาหารธรรมดา เถ้าแก่ฟ่านคนนี้ ยังต้องพึ่งพาท่านในการทำเรื่องต่าง ๆ ถึงแม้จะให้ความกล้าเขาเพิ่มเป็นสิบเท่า เขาก็ไม่กล้าสืบข่าวเรื่องท่าน ลับหลังหรอกขอรับ เจ้าทึ่มนี่ เมื่อวานข้าได้ยินข่าวลือว่า เถ้าแก่เฉียนคนนั้น พูดลับหลังว่าการส่งสินค้าของข้าไม่ยุติธรรม วันนี้เจ้าคนต่ำต้อยสมควรตายคนนี้ ก็มาสร้างปัญหาให้ข้าอีก ซวยจริง ๆ ข้าเห็นว่าช่วงเดือนเจ็ด เดือนแปด ได้แบ่งให้พวกเถ้าแก่เฉียน เกินครึ่งแล้วขอรับ เราทำได้แค่กินส่วนที่เหลือแล้วละ คนพวกนี้นี่ ตัวเองได้ผลประโยชน์ แต่ยังจะทำเป็นขาดทุนอีก ใครได้น้อยได้มาก พวกเขาเองก็รู้อยู่แก่ใจ เรื่องนี้จะแสร้งทำเป็น หูหนวกตาบอดแบบนี้ไม่ได้ วางใจเถอะขอรับ เวลาและจำนวนการจัดส่งสินค้า ในแต่ละครั้งของท่าน อยู่ในสมุดบัญชีเล่มนี้หมดแล้ว บันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน เถ้าแก่พวกนั้น ก็ลงนามและประทับตรา ลงไปในสมุดบัญชีนี้แล้วด้วยเหมือนกัน ในนี้ถ้าถามขึ้นมา ใครก็ปัดความรับผิดชอบไม่ได้ทั้งนั้น ดี เรื่องขนส่งสินค้ารอบถัดไป จัดการไปถึงไหนแล้ว คุณชายวางใจเถอะ ทุกอย่างจัดการได้อย่างเหมาะสมขอรับ มาสั่งด้วยกัน ๆ คนที่เหลียนฮวาเอ๋อร์ จะแต่งงานด้วยคือตระกูลซ่งไหนหรือ ตระกูลซ่งนั่นอย่างไรเล่า ซ่งไหนล่ะ นั่นน่ะแหละ คนที่เปิดหอสุราและร้านเงิน ในตำบลหลายแห่งนั่นน่ะหรือ ใช่ ๆ ๆ

เจ้าก็รู้ดีไม่ใช่หรือ ครอบครัวร่ำรวยขนาดนี้ จะมีตระกูลอื่นอีกหรือ เช่นนั้นคนที่นางจะแต่งงานด้วย เป็นลูกชายคนไหนของตระกูลซ่งหรือ ไม่รู้สิ ข้าไม่ได้สนใจ เจ้าถามเยอะแยะแบบนี้ไปทำไม ไม่มีอะไรทำน่ะ ถามไปเรื่อย ขี้นินทาใช้ได้เลยนะเนี่ย ไปกันเถอะ ข้ายังไม่ได้กินเลย เจ้ามีเงินหรือ เจ้าจะเลี้ยงมิใช่หรือ ข้าพูดตอนไหน ว่าข้าจะเลี้ยง ข้าแค่พาเจ้ามาดู หอสุราที่หาเงินได้มากที่สุด เปิดโลกกว้างสักหน่อยน่ะ รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวถ้าสั่งอาหารขึ้นมาจริง ๆ เจ้าต้องควักเงินออกมาจ่ายนะ ข้าถูกหลอกหรือนี่ อันนี้ต้องส่งไปให้ใคร ท่านปู่ ท่านย่า ม่านเอ๋อร์ กลับมาพอดีเลย พรุ่งนี้เป็นวันไหว้พระจันทร์ ประเดี๋ยวเจ้าเอาขนมไหว้พระจันทร์ ไปให้ลุงจิน ฝากบอกเขาด้วยนะว่า เงินที่เป็นหนี้เขาอยู่ ให้เขาวางใจได้ว่า ตระกูลเหลียนไม่ค้างจ่ายเขาแน่ ๆ เรื่องนี้ ลุงใหญ่ไปน่าจะเหมาะกว่านะ ถ้าลุงใหญ่เจ้าไปส่งของขวัญ ตรงกันข้ามกลับคิดว่า เหมือนมีเรื่องร้อนใจอะไรน่ะสิ ไม่ดีหรอก เด็ก ๆ ไปน่ะเหมาะกว่า เจ้าไปเถอะ – ไปเถอะ – ก็ได้ ครบแล้ว อยากกินอะไรหยิบได้ตามสบายเลย ไม่ต้องเกรงใจลุงจิน

ถือซะว่าที่นี่ก็เหมือนบ้านตัวเอง ถ้าอยู่ที่บ้านตัวเองจริง ๆ อยากกินอะไร จะหยิบตามใจไม่ได้น่ะสิเจ้าคะ ทำไมข้าไม่เห็น พี่โย่วเหิงเลยล่ะเจ้าคะ เขาไปทวงหนี้ที่บ้านเหล่าอู๋ ที่อยู่ทางตะวันตกของหมู่บ้านน่ะ เดี๋ยวก็กลับมา เขา ทวงหนี้ ใช่ เช่นนั้นข้าไปดูสักหน่อย ไปเถอะ มา หยิบไปหลายชิ้นหน่อยสิ ม่านเอ๋อร์ ม่านเอ๋อร์ ตรงนี้ กวาดดี ๆ ล่ะ ฟืนพวกนี้ เก็บด้วยนะ โต๊ะนี่ก็เช็ดสักหน่อย ความเป็นอยู่ของข้าน่ะลำบากมากเลย หนี้สินนี้น่ะ ข้าคืนให้เดี๋ยวนี้เลย ไม่ได้หรอก ในวันข้างหน้า ข้าจะใช้ชีวิตอย่างไรเล่า นั่นสิ ชีวิตความเป็นอยู่ของท่านลำบากมากจริง ๆ พี่เหิง ม่านเอ๋อร์ เจ้ามาได้อย่างไร เดี๋ยวก่อน น้ำล้างไก่สกปรกแล้ว ข้าไปเปลี่ยนก่อนนะ ช่วยท่านแล้ว ข้าเอาส่วนแบ่งแค่นี้ ไม่เกินไปหรอกใช่ไหม นี่ ๆ ๆ จำไว้นะ ท่านเป็นคนทวงหนี้ ไม่ใช่คนคืนหนี้ ทำไมถึงได้หูเบาขนาดนี้เนี่ย อีกอย่าง ถ้าต่อไป ท่านเจอกับคนที่จัดการไม่ไหวแบบนี้อีก อย่าลืมเรียกข้าล่ะ

รับมือกับคนพวกนี้ ข้ามีวิธีเยอะแยะเลยละ ม่านเอ๋อร์ มีประโยคหนึ่ง ข้าไม่รู้ว่าควรจะพูดดีหรือไม่ ไม่ต้องขอบคุณหรอก ไม่ใช่ ก็ได้ ก็ควรจะขอบคุณเจ้าอยู่หรอก แต่ว่า จริง ๆ แล้วครอบครัวนี้ลำบากมาก คุณยายบ้านนี้ มีเวลาไม่มากแล้ว ที่ทั้งฆ่าไก่ ทั้งฆ่าห่าน ทั้งหมดเป็นเพราะต้องฉลองวันไหว้พระจันทร์ อยากให้คุณยายได้เก็บความทรงจำเอาไว้น่ะ แล้วก็วัวแพะที่อยู่ในลานบ้าน ล้วนยืมมาทั้งนั้น ก็เพื่อ ให้คุณยาย จากไปอย่างสงบ หนี้ที่เจ้าทวงมา น่าจะเป็น เงินค่าโลงศพ ของคุณยายน่ะ พอแล้ว ๆ ตอนทวงหนี้ ก็ไม่เห็นว่าท่านจะพูดเก่งแบบนี้เลย เงินก็หาไม่ได้ แถมยังขาดทุนอีกสิบเหวิน ม่านเอ๋อร์ เจ้าใจดีจริง ๆ ถ้าต่อไปท่านจะทวงหนี้ อยู่ห่าง ๆ ข้าหน่อยนะ พรุ่งนี้จะเชิญเจ้าไปร้องเล่นเต้นระบำ ไปด้วยกันสิ ข้าไม่ไปหรอก ข้ายังต้องรีบหาเงินอีกตั้งเยอะ แค่วันเดียวเอง ฝนตกต้องตามฤดูกาล ผลเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์ ฝนตกต้องตามฤดูกาล ผลเก็บเกี่ยวอุดมสมบูรณ์ พี่โย่วเหิง ให้ท่านต้องรอนานแล้วละ ข้าเองก็เพิ่งจะมาได้สักพัก นึกไม่ถึงว่า สหายเสิ่นก็สนใจเรื่องพวกนี้ด้วย

ระบำพื้นบ้าน มันก็แค่นี้แหละ พี่โย่วเหิง ทำไมถึงมีแต่คนหนุ่มสาว มาร้องเพลงเต้นระบำในวันไหว้พระจันทร์ล่ะ คู่สามีภรรยามากมายในหมู่บ้าน ต่างก็รู้จักกันตอนร้องเพลงเต้นระบำน่ะ เป็นอย่างนี้นี่เอง ถึงจะดูเหมือนการเต้นบนลานกว้าง แต่ก็น่าสนใจทีเดียว การเต้นบนลานกว้างหรือ ก็คือการเต้นบนทำนบกั้นน้ำอะไรแบบนี้น่ะ เอาละ เตรียมพร้อมกันแล้วนะ ม่านเอ๋อร์ เช่นนั้นข้าจะแสดงฝีมือแล้วนะ มาด้วยกันสิ สหายเสิ่นน่าจะเต้นไม่เก่ง อย่าบังคับเขาเลย พวกเราไปกันเถอะ เจ้าจะไม่มาไม่ใช่หรือ สิบเบี้ยใกล้มือ ไม่ว่าเจ้าจะอยู่ข้างกายม่านเอ๋อร์ ด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม จัดการธุระเสร็จแล้วก็รีบไปซะ สหายโย่วเหิงเป็นห่วง เหลียนม่านเอ๋อร์จริง ๆ ด้วยสินะ จำคำพูดของข้าไว้ก็พอ ถ้าหากข้าไม่ไปล่ะ [ภารกิจ พันตำลึงทอง] [รายรับ ขายหั่วจี๋ รับเขียนจดหมาย 23 ตำลึง 66 เหวิน] [รายจ่าย ซื้อปิ่นปักผมให้ท่านแม่ แถมเงินให้ลูกหนี้ 1 ตำลึง 10 เหวิน]